1. คำจำกัดความ:
การเจาะรู: ใช้อุปกรณ์เจาะรูและอุปกรณ์ยึดเครื่องมือเพื่อเจาะรูบนเหล็กสปริงแบนในตำแหน่งที่ต้องการ โดยทั่วไปมีสองวิธี ได้แก่ การเจาะรูเย็นและการเจาะรูร้อน
การเจาะรู: ใช้เครื่องเจาะและอุปกรณ์เครื่องมือในการเจาะรูในตำแหน่งที่ต้องการของแท่งเหล็กแบนสปริง ดังที่แสดงในรูปที่ 2 ด้านล่าง
2. การประยุกต์ใช้:
ใบไม้ผลิทั้งหมด
3.1 ก่อนการเจาะและการเจาะ ให้ตรวจสอบเครื่องหมายรับรองกระบวนการบนแท่งแบน และตรวจสอบรายละเอียดและขนาดของแท่งแบน การเจาะและการเจาะจะได้รับอนุญาตก็ต่อเมื่อแท่งแบนตรงตามข้อกำหนดของกระบวนการเท่านั้น
ดังแสดงในรูปที่ 1 ด้านล่าง ให้เจาะรูวงกลมตรงกลาง ปรับหมุดกำหนดตำแหน่งตามขนาด L1, B, a และ b
(รูปที่ 1 แผนผังการวางตำแหน่งการเจาะรูวงกลมตรงกลาง)
ดังแสดงในรูปที่ 2 ด้านล่าง ให้เจาะรูตรงกลางแถบ ปรับหมุดกำหนดตำแหน่งตามขนาด L1, B, a และ b
(รูปที่ 2 แผนผังการวางตำแหน่งการเจาะรูแถบตรงกลาง)
3.3. การเลือกวิธีการเจาะแบบเย็น เจาะแบบร้อน และเจาะ
3.3.1. การประยุกต์ใช้การเจาะเย็น:
1) เมื่อความหนาของเหล็กสปริงแบน h<14 มม. และเส้นผ่านศูนย์กลางของรูวงกลมตรงกลางมากกว่าความหนา h ของเหล็กสปริงแบน การเจาะเย็นจึงเหมาะสม
2) เมื่อเหล็กสปริงแบนมีความหนา h≤9 มม. และรูตรงกลางเป็นรูแถบ การเจาะเย็นจะเหมาะสม
3.3.2. การประยุกต์ใช้การเจาะและเจาะร้อน:
การเจาะหรือเจาะร้อนสามารถใช้กับเหล็กสปริงแบนที่ไม่เหมาะกับการเจาะเย็นได้ ในระหว่างการเจาะร้อน จะใช้เตาความถี่กลางในการให้ความร้อน เพื่อให้แน่ใจว่าอุณหภูมิของเหล็กอยู่ที่ 500-550 องศาเซลเซียส และเหล็กแบนมีสีแดงเข้ม
3.4. การตรวจจับการเจาะ
เมื่อทำการเจาะรู จำเป็นต้องตรวจสอบเหล็กสปริงแบนชิ้นแรกก่อน เมื่อผ่านการตรวจสอบครั้งแรกแล้ว การผลิตจำนวนมากจึงจะดำเนินต่อไปได้ ควรให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับการป้องกันแม่พิมพ์กำหนดตำแหน่งไม่ให้คลายตัวและเลื่อน มิฉะนั้นขนาดของตำแหน่งการเจาะรูจะเกินช่วงความคลาดเคลื่อน ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตออกมาไม่ผ่านมาตรฐาน
เหล็กเส้นแบนสปริงที่เจาะรูแล้วจะต้องวางซ้อนกันอย่างเรียบร้อย ห้ามวางตามอำเภอใจ เพราะอาจทำให้เกิดรอยฟกช้ำบนพื้นผิว ต้องทำเครื่องหมายรับรองคุณสมบัติและติดบัตรโอนงาน
วัดรูสปริงตามรูปที่ 1 และรูปที่ 2 มาตรฐานการตรวจสอบการเจาะรูและการเจาะเป็นไปตามที่แสดงในตารางที่ 1 ด้านล่าง
เวลาโพสต์: 21 มี.ค. 2567